หากพูดถึงเรื่องการย้ายบ้านเมื่อไร ฟังดูเป็นเรื่องวุ่นวายน่าปวดหัวขึ้นมาทันที ทั้งเรื่องเก็บของย้ายออกจากบ้านเก่าจะต้องใช้กล่องแบบไหน ใช้กี่ใบถึงจะพอและจะเก็บของอย่างไรไม่ให้เสียหาย ไหนจะเรื่องขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆ แล้วเมื่อไปถึงบ้านใหม่ยังจะต้องจัดของเข้าบ้านอีก เพียงแค่คิดว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว วิธีที่จะช่วยให้คุณเตรียมตัวตั้งแต่ก่อนย้ายบ้าน การบรรจุของลงกล่อง การขนย้าย ไปจนถึงการจัดของเข้าบ้านใหม่ เพื่อให้การย้ายบ้านของคุณเป็นเรื่องง่ายดายยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญในการเตรียมตัวย้ายออกจากบ้าน ก็คือขั้นตอนการเก็บของลงกล่อง ดูเหมือนจะเป็นเรื่องไม่ยุ่งยากนัก แต่ก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากและหากเตรียมตัวในขั้นตอนนี้ดี จะช่วยให้ขั้นตอนที่เหลือทั้งการขนย้ายและการจัดของในบ้านใหม่ง่ายมาก
ขั้นตอนขนย้าย วิธีการแพ็คกิ้งป้องกันก่อนการขนย้าย
จาน ชาม ขวด แก้ว กรอบรูป ถ้าเป็นชนิดเดียวกัน ควรเก็บไว้ด้วยกัน โดยเรียงจากขนาดใหญ่ไปหาขนาดเล็ก หากวางซ้อนกันได้จะยิ่งช่วยประหยัดเนื้อที่ ถ้าเป็นวัสดุที่แตกหักง่าย ควรหาวัสดุมาห่อหุ้มป้องกันก่อนบรรจุลงกล่อง และหากในกล่องมีพื้นที่ว่างมาก ควรหาใส่เม็ดโฟมหรือกระดาษหนังสือพิมพ์ยัดลงไปในกล่องให้เต็มพื้นที่ว่างด้วย เพื่อป้องกันของในกล่องกระแทกกันแล้วแตกระหว่างขนย้าย
เสื้อผ้า ควรเก็บเสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใส่ก่อน แล้วจึงเก็บชุดที่ใส่บ่อยๆ ไว้ทีหลัง การเก็บเสื้อผ้าโดยซ้อนกันหลายๆตัวแล้วพับหรือม้วนจะช่วยประหยัดเนื้อที่ได้มาก แต่สำหรับเสื้อผ้าที่ไม่สามารถพับได้ เช่น เสื้อสูทหรือชุดผ้าไหม อาจใช้กล่องทรงสูง แล้ววางเหล็กเป็นราวแขวนไว้ด้านบน เพื่อทำเป็นตู้เสื้อผ้าแบบเคลื่อนที่ เวลาเคลื่อนย้ายจะได้ไม่ยับหรือสามารถ สั่งซื้อกล่องใส่เสื้อผ้า พร้อมราวแขวนสแตนเลท ขนาด 50x50x100 ซม.จากเราได้
หนังสือ ควรแยกตามขนาด แล้วบรรจุหนังสือที่มีขนาดใกล้เคียงกันไว้ในกล่องเดียวกันและควรจะวางหนังสือแนวตั้งเท่านั้น จะช่วยให้บรรจุได้มากขึ้น ไม่ควรหนังสือรวมกันมากๆในกล่องขนาดใหญ่ เพราะกล่องจะมีน้ำหนักมากทำให้เคลื่อนย้ายไม่สะดวก ควรใส่ให้แค่พอยกได้ เพื่อป้องกันกล่องแตกและกล่องอาจฉีกขาดระหว่างขนย้ายได้
รองเท้า ไม่ควรเก็บโดยการวางทับกัน เพราะจะทำให้รองเท้าเสียทรง หากมีกล่องใส่รองเท้า ควรเก็บลงกล่อง แล้วเขียนโน้ตติดข้างกล่องว่าเป็นรองเท้าแบบใดเพื่อความสะดวกในการค้นหาหรือหากไม่มีกล่องใส่รองเท้า อาจเก็บรวมกันในกล่องขนาดใหญ่และจัดรองเท้าที่มีขนาดใกล้เคียงกันวางนอนเข้าคู่เป็นชั้นๆ แล้วใช้กระดาษลูกฟูกหรือกระดาษลังกั้นระหว่างชั้น โดยใช้กระป๋องน้ำอัดลมเปล่าวางที่มุมของกล่อง เพื่อช่วยรับน้ำหนักไม่ให้กดลงบนรองเท้า
เครื่องใช้ไฟฟ้า วิธีที่ดีที่สุดคือการบรรจุเครื่องใช้ไฟฟ้าลงในกล่องที่มาจากโรงงาน แต่หากไม่มี ควรถอดแยกชิ้นส่วนที่สามารถถอดได้ห่อด้วยพลาสติกกันกระแทก แล้วบรรจุชิ้นส่วนต่างๆของอุปกรณ์ชนิดเดียวกันในกล่องหรือถุงเดียวกันเพื่อความสะดวกในการนำไปประกอบภายหลัง ชนิดที่มีสายไฟควรม้วนเก็บให้เรียบร้อยหรือพันติดไว้กับตัวเครื่องระหว่างการขนย้าย ควรวางเครื่องใช้ไฟฟ้าในทิศทางปกติของการใช้งาน ไม่ควรวางนอนหรือเอียง เพราะตัวเครื่องอาจเกิดความเสียหายได้
เฟอร์นิเจอร์ไม้ เช่น ตู้ โต๊ะ หรือเตียง หากมีลิ้นชักหรือแผ่นกระจก ควรถอดแยกชิ้นส่วนเพื่อห่อต่างหาก ตู้ที่เป็นบานเปิดหรือบานเลื่อนควรใช้เชือกมัดหรือใช้เทปยึดบานประตูให้ติดกับตัวตู้ เพื่อความสะดวกขณะขนย้าย สำหรับของชิ้นใหญ่ที่ไม่สามารถห่อได้ทั้งหมด ควรติดกระดาษหรือพลาสติกกันกระแทกบริเวณที่เป็นเหลี่ยมหรือมุม แต่หากย้ายกับเรา ทางทีมงาน บิ๊ก มูฟ จะใช้ผ้านวมหนาห่อหุ้มป้องกันให้
กระจกหรือสิ่งของที่แตกหักได้ ควรใช้กระดาษลูกฟูกหรือพลาสติกกันกระแทกห่อหลายๆชั้น แล้วทำสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายระวังแตกไว้ในจุดที่เห็นได้ชัด และควรวางในแนวตั้งเท่านั้น
อุปกรณ์ต่างๆสำหรับการบรรจุสิ่งของ
กล่อง เป็นอุปกรณ์หลักในการบรรจุสิ่งของสำหรับการขนย้าย มีหลายขนาด หาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าทั่วไป ก่อนซื้อควรตรวจดูสภาพกล่องว่าอยู่ในสภาพดี ไม่ฉีกขาด ควรเลือกใช้กล่องหลายขนาดตามความเหมาะสมของสิ่งของ แต่อาจจะทำให้เปลืองเนื้อที่ในการขนย้ายเล็กน้อย และควรเลือกกล่องให้พอดีกับขนาดสิ่งของด้วย โดยกล่องขนาดมาตราฐาน มีขนาดดังนี้ 50x40x40 ซม. , 50x50x100 ซม.
พลาสติกกันกระแทก ใช้ห่อหุ้มสิ่งของที่แตกหักหรือป้องกันการขีดข่วนได้ดีมาก ด้วยลักษณะเป็นแผ่นบาง ทำให้สามารถดัดรูปทรงตามสิ่งของที่ห่อได้ทุกรูปแบบ หาซื้อได้ตามร้านขายวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ทั่วไป แต่มีราคาค่อนข้างสูง ควรเลือกซื้อเป็นม้วนขนาดใหญ่ ซึ่งมีหน้ากว้างประมาณ 1.30 เมตร ราคาจะถูกกว่า เพื่อสามารถใช้ห่อของขนาดใหญ่ได้ทั้งชิ้นพลาสติกกันกระแทกมี 2 ชนิด คือ 1. EPE เป็นโฟมที่มีความหนา 1 มม. มีขนาด 1.3×100 ม. 2. Air bubble เป็นแบบที่มีฟองอากาศภายในทำให้กันกระแทกได้ดี มีขนาด 1.3×100 ม.
กระดาษลูกฟูก ส่วนที่เป็นลอนบนกระดาษลูกฟูกสามารถลดแรงกระแทกและป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี มีทั้งแบบบางและแบบหนา โดยแบบบางสามารถงอหรือพับได้ เหมาะสำหรับห่อสิ่งของที่มีรูปทรงเหลี่ยม แต่ไม่เหมาะกับการห่อของที่มีรูปโค้งหรือกลมมน ส่วนแบบหนามีความแข็งแรง เหมาะกับการใช้รองขาโต๊ะ ตู้ เตียง ใช้ติดบริเวณเหลี่ยมมุมของสิ่งของที่อาจได้รับความกระทบกระเทือน หรืออาจใช้เป็นตัวแบ่งระหว่างชั้นในกล่องใส่ของก็ได้ แต่ข้อเสียนั้นคือ อาจฉีกขาดง่าย เมื่อเจอมุมสิ่งของ หรือ ขูดขีดแรงๆ ดังนั้นอาจหาฟิล์มพลาสติกใสมาพันอีกทีก็จะปลอดภัยขึ้น
กระดาษ เป็นอุปกรณ์ที่หาง่ายใช้คล่องที่สุด ใช้ห่อของชิ้นเล็กๆ ก่อนบรรจุลงกล่องเพื่อป้องกันการเสียดสีกันภายในกล่อง หรือจะขยำเป็นก้อนใช้กันกระแทกภายในกล่องได้ด้วย แต่สำหรับของที่ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์โดยเฉพาะภาชนะใส่อาหาร ภายหลังจากแกะห่อออกมาแล้วต้องทำความสะอาดอีกครั้ง เพราะหมึกจากหนังสือพิมพ์จะทำให้สิ่งของเป็นรอยหมึกพิมพ์สีดำ และอาจมีสารตกค้างที่เป็นอันตรายได้ หรือการกระดาษปรู๊ฟขาวสำหรับแพ็คโดยตรงก็ได้
พลาสติกฟิล์มยืดใส ไม่ใช่พลาสติกชนิดเดียวกับที่ใช้ห่ออาหาร แต่เป็นพลาสติกที่ใช้สำหรับห่อเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งมีความหนากว่าเล็กน้อย ใช้งานสะดวก เพราะพลาสติกสามารถติดกันได้โดยไม่ต้องติดเทป เหมาะกับการห่อของที่เพียงแต่ไม่ต้องการให้เลอะ ไม่ต้องระวังเรื่องการแตกหัก เช่น เบาะ ฟูก ที่นอน หรือเก้าอี้อาร์มแชร์ หาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องเขียน หรือร้านขายพลาสติกทั่วไป มีทั้งแบบตัดแบ่งขายเป็นเมตรและขายแบบเป็นม้วนขนาดใหญ่ มีหน้ากว้างหลายขนาดให้เลือกส่วนใหญ่จะมีขนาดหน้ากว้าง 50 ซม.ยาว 300 ม.
ผ้า เป็นวัสดุที่มีความอ่อนนุ่ม ช่วยปกป้องพื้นผิวสิ่งของจากการสัมผัส หาได้ง่ายโดยใช้ผ้าที่มีอยู่ในบ้าน เช่น ผ้าม่าน ผ้าเช็ดตัว หรือแม้กระทั่งเสื้อผ้า ผ้าผืนใหญ่อย่างผ้าคลุมเตียง อาจใช้ห่อชุดเครื่องนอนเช่นหมอน ผ้าที่สามารถเปื้อนได้ใช้รองพื้นในการขนย้าย ส่วนผ้าผืนเล็กๆใช้เป็นวัสดุห่อหุ้มก่อนบรรจุลงกล่องหรือรองระหว่างชั้นในกล่องได้เป็นอย่างดี
ลังไม้ เหมาะสำหรับบรรจุของชิ้นใหญ่ที่มีน้ำหนักมากและแตกหักได้ เช่น แจกันหรือรูปปั้นขนาดใหญ่ หาซื้อได้จากร้านขายไม้พาเลทข้างทาง หรือร้านขายวัสดุก่อสร้าง ร้านขายของเก่า แต่ถ้าของมีขนาดใหญ่มาก อาจใช้เศษไม้นำมาต่อเป็นลังแบบง่ายๆและก่อนจะบรรจุของลงไปในลังไม้ ควรหาวัสดุป้องกันการสัมผัสระหว่างสิ่งของกับลังไม้อีกชั้นหนึ่งด้วย
เชือก ใช้มัดของที่เป็นม้วน เช่น เสื่อ พรม และใช้มัดกล่องหรือหีบห่อให้แน่นหนา ป้องกันการเปิดระหว่างการขนย้าย และยังใช้เป็นหูหิ้วช่วยให้เคลื่อนย้ายได้สะดวกมากขึ้น ในการมัดควรใช้เชือกที่มัดได้แน่นแต่สามารถแกะออกง่าย และควรเลือกใช้เชือกให้เหมาะกับการใช้งาน เช่น เชือกไนล่อน เหมาะกับของชิ้นใหญ่ มีน้ำหนักมาก และมีพื้นผิวแข็ง ไม่เกิดรอยจากการมัด เชือกฟางหรือเชือกผ้า ใช้กับของที่ไม่หนักมากและต้องระวังเรื่องรอยขีดข่วน
เทปกาว ใช้ผนึกฝากล่องหรือยึดระหว่างวัสดุห่อหุ้ม มีหลายชนิดและความหนาของแถบหลายขนาดให้เลือกใช้ ชนิดที่มีส่วนผสมของกาวมากจะมีความสามารถในการยึดติดดีกว่า แต่อาจทิ้งร่องรอยไว้บนผิววัสดุ หากใช้ในการติดที่ต้องสัมผัสกับผิวโดยตรง ควรเลือกชนิดที่สามารถลอกได้ง่ายและเพื่อความสะดวกในการใช้งาน เทปกาวที่มืออาชีพอย่างเราใช้นั้น มี 3 แบบ คือ
1 เทปกาวสีน้ำตาล หรือ แบบใส ใช้ปิดกล่อง สิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ
2 เทปกาวสีแดง ใช้ติดเพื่อให้ทราบว่าเป็นสิ่งของที่แตกหัก เสียหายง่าย ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
3 เทปกาวขาว หรือ เทปหนังไก่ ไม่ทิ้งร่องรอยไว้บนผิววัสดุ ใช้ติดสำหรับเฟอร์นิเจอร์ไม้หรือของที่ต้องการแพ็คชั่วคราว
นอก จากนี้เพื่อให้ทำการติดเทปได้ง่าย อยากแนะนำให้ใช้ม้วนตัดเทปกาว เพื่อความสะดวก และช่วยประหยัดเทปในการใช้งานด้วย มีหลากหลายหน้ากว้างที่เหมาะสมกับเทปแบบต่างๆ ตั้งแต่ขนาดหน้ากว้าง 1.5 – 2 นิ้ว
เมื่อรู้จักอุปกรณ์และเคล็ดลับครบแล้ว ก็ลงมือจัดเก็บขนย้ายตามขั้นตอนกันเลย …
จดก่อนเก็บ
ก่อนที่ท่านจะเก็บของลงกล่องนั้น ลองทำรายการข้าวของดูก่อนว่า ของที่จะเก็บนั้นมีอะไรบ้าง ต้องใช้กล่องชนิดใด ขนาดเท่าใด ใช้จำนวนกี่กล่อง และลองแบ่งว่าในแต่ละกล่องมีอะไรบ้าง จะได้เตรียมหาอุปกรณ์บรรจุหีบห่อได้อย่างเพียงพอและเหมาะสม
ติดป้ายหรือเขียนไว้หลังเก็บ
หลังจากเก็บของลงกล่องเรียบร้อยแล้ว ควรเขียนรายการไว้ที่ข้างกล่อง ว่าภายในบรรจุอะไรบ้าง หากของชิ้นไหนเป็นของที่สามารถแตกหักเสียหายได้ ควรติดสัญลักษณ์ไว้เพื่อเตือนให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ
เก็บแยกห้อง
เมื่อแพ็คเสร็จสิ้นแล้ว ควรเก็บของโดยแยกตามแต่ละห้อง ช่วยให้การแยกของเมื่อขนย้ายเข้าไปยังบ้านใหม่ทำได้สะดวกมากขึ้นคุณควรติดสัญลักษณ์แถบสี หรือเขียนกำกับไว้ ติดไว้ที่ข้างกล่องและที่ห้องต่างๆ แยกตามห้อง วิธีนี้ทำให้ผู้ที่มาช่วยขนย้ายสามารถยกกล่องไปวางรวมกันในแต่ละห้องได้ง่าย โดยไม่ต้องเสียเวลามาถามคุณว่ากล่องใบนี้เอาไว้ที่ไหน ช่วยประหยัดเวลาและลดความวุ่นวายได้มากทีเดียว
เมื่อจัดห่อเรียบร้อยก็ถึงคิวยก โดยมีข้อควรระวังดังนี้
การขนของขึ้นรถ เพื่อขนย้ายออก
การลำเลียงของขึ้นรถเพื่อขนย้ายออก ควรวางของชิ้นใหญ่และมีน้ำหนักมาก ก่อน เพื่อจะได้นำชิ้นเล็กหรือของที่มีน้ำหนักเบาซ้อนทับด้านบนได้ แต่ไม่ ควรวางชิดกันจนเกินไป ควรเว้นที่ไว้บางเพื่อไม่ให้ของเสียดสีกันมากจนเกิดความเสียหายและ ควรวางแผนให้ดีก่อนการขนขึ้นรถ เพื่อช่วยประหยัดเนื้อที่ในการบรรทุกและไม่ต้องรื้อมาจัดเรียงกันใหม่ภาย หลัง
การขนของลงรถ เพื่อขนย้ายเข้า
การลำเลียงของลงรถเพื่อขนย้ายเข้า ควรขนของลงจากรถทั้งหมดโดยวางกองรวมกันไว้ ก่อน แล้วจึงขนย้ายของชิ้นใหญ่หรือของที่มีน้ำหนักมากเข้าไปก่อน ตามด้วย กล่องต่างๆ เพราะจะได้จัดเข้าที่ได้ง่าย หลังจากนั้นจึงแกะบรรจุภัณฑ์ที่ห่อหุ้ม ออก และจัดสิ่งของโดยลำดับตามความต้องการใช้งานก่อนหลัง
การขนย้ายเครื่องใช้ไฟฟ้า
การขนย้ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ควรระมัดระวังความเสียหายเป็นพิเศษ โดยอ่านจากคู่มือ วิธีใช้ที่ติดมากับตัวเครื่องเช่น การขนย้ายตู้เย็นไม่ควรวางนอน และควรถอดปลั๊ก ปิดสวิตช์การทำงานก่อนการขนย้ายประมาณ 3-4 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำยาทำความเย็น ไหลกลับ ไม่ตกค้างตามท่อ และหากติดตั้งในบ้านใหม่เสร็จเรียบร้อย ควรวางตั้งทิ้งไว้อย่างน้อย 3-4 ชั่วโมงก่อนเสียบสวิตช์เช่นกัน และเวลาเปิดครั้งแรกให้บิดสวิตช์ไปที่อุณหภูมิเย็นที่สุดเพื่อไล่น้ำยาให้ เดินทั่ว โดยเมื่อเครื่องเดินไปแล้ว 30 นาทีจึงค่อยปรับอุณหภูมิลงมาที่ระดับปกติ
อุปกรณ์ช่วยให้งานขนย้ายง่ายขึ้น
รถเข็นสำหรับย้ายสิ่งของ ใช้เคลื่อนย้ายวัสดุสิ่งของได้สะดวก ส่วนมากรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 50 กก. ขนาดกะทัดรัด จัดเก็บง่าย
การเตรียมการย้ายเข้าบ้าน
หากบ้านใหม่ของคุณเป็นบ้านในโครงการหมู่บ้านจัดสรร คุณควรจะต้องตรวจความเรียบ ร้อยของบ้านใหม่ให้อยู่ในสภาพดีในระดับที่คุณพอใจมากที่สุด ก่อนจะลงชื่อรับ มอบการโอนบ้าน ก่อนที่คุณจะย้ายออกจากบ้านเก่า รวมทั้งก่อนย้ายเข้าบ้านใหม่ ควรตรวจสอบข้อสัญญาว่าคุณสามารถติดตั้งอุปกรณ์และเครื่องใช้ภายในบ้านเพิ่ม เติม โดยสามารถเคลื่อนย้ายหรือถอดอุปกรณ์เหล่านั้นออกไปด้วยได้หรือไม่ แล้ว จึงพิจารณาในการติดตั้งเพิ่ม
การขนย้ายด้วยตัวเอง ถึงแม้จะดูเหมือนยุ่งยากแต่ก็สบายใจ เนื่องจากเราสามารถ ควบคุมขั้นตอนทั้งหมดได้ด้วยตัวเอง ตั้งแต่เริ่มบรรจุของลงกล่องจนกระทั่งนำ ของออกมาจัดในบ้านใหม่ หากคุณไม่มีรถขนาดใหญ่เพียงพอในการขนย้าย ควรต้อง ติดต่อไหว้วานคนรู้จักเพื่อช่วยในการขนย้ายและหากจำเป็นต้องใช้บริการรถรับ จ้าง คุณควรจะติดต่อและตกลงราคากันล่วงหน้า และจัดเตรียมปริมาณของในแต่ละเที่ยว ให้เหมาะสมกับขนาดของรถ ซึ่งมีทั้งรถกระบะไปจนถึงรถบรรทุก ราคานั้นจะขึ้นอยู่กับขนาดรถและระยะทาง
การใช้บริษัทขนย้ายมืออาชีพ เป็น วิธีที่สะดวก รวดเร็ว และประหยัดเวลามากกว่าการขนย้ายด้วยตัวเองมากที่สุด เพียงแค่ โทรศัพท์ไปติดต่อนัดเวลาให้บริษัทที่ให้บริการขนย้ายของมาสำรวจที่บ้าน หรือถ้าเราส่งข้อมูลและรูปภาพไปให้เขาจะดีที่สุดในช่วงโควิดระบาดนี้ เพื่อประเมินราคาและนัดวันขนย้าย เมื่อตกลงราคากันเรียบร้อย ก็ถึงวันเวลากำหนดตามที่ตกลงไว้บริษัทขนย้าย โดยทีมขนย้ายจะดำเนินการเก็บของขนย้ายให้โดยเจ้าของบ้านไม่ต้องลงมือใดๆทั้ง สิ้นส่วนค่าใช้จ่ายในการขนย้ายราคานั้นจะขึ้นอยู่กับจำนวนข้าวของเครื่อง ใช้ ที่จะต้องแพ็คกิ้งป้องกัน วันและเวลาที่เริ่มขนย้าย จำนวนเที่ยวรถที่ใช้ ระยะทางขนย้ายจากต้นทางไปยังปลายทาง
การวางแผนย้ายบ้าน
ก่อนการย้ายบ้านประมาณ 30 วัน คุณควรจะวางแผน ดังนี้
วันที่ 1 2 3 ให้แจ้งยกเลิก บริการไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ เคเบิลทีวี รวมทั้งแจ้งหน่วยงานที่ติดต่อด้วย ทั้งบริษัท ธนาคารและบอกกล่าวเพื่อนฝูง เพื่อยกเลิกที่อยู่เก่าและแจ้งที่อยู่ใหม่สำหรับการจัดส่งเอกสาร ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ ให้เก็บเอกสารที่ตกค้างไว้ให้คุณไปรับเอง ณ ที่ทำการไปรษณีย์
วันที่ 5 6 7 วางแผนให้ดี เพราะการขนย้ายบ้านแต่ละครั้ง คุณมีสิ่งที่จะต้องทำหลายอย่าง ก่อนอื่นคุณต้องทราบก่อนว่าคุณจะย้ายออกจากบ้านได้ล่าช้าที่สุดในวันไหน และย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่ได้เมื่อไร จากนั้นจึงวางแผนในการเก็บของเพื่อกำหนดวันขนย้ายให้แน่นอน
วันที่ 9 10 ติดต่อช่าง หากต้องการถอดอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือชิ้นส่วนที่ติดกับตัวบ้านออกไปด้วย ควรติดต่อเพื่อนัดเวลากับช่างต่างๆ ให้เรียบร้อย
วันที่ 11 12 เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม เตรียมกระดาษหนังสือพิมพ์ ถุงพลาสติก กล่องกระดาษ และเชือกเอาไว้ให้พร้อมเพราะเมื่อถึงเวลาจะต้องเก็บของบรรจุหีบห่อเมื่อไร ก็สามารถลงมือได้ ไม่ต้องเสียเวลาไปหาอุปกรณ์ให้ยุ่งยาก
วันที่ 15 16 อย่าลืมแจ้งย้าย ตามกฎหมายกำหนดให้ผู้ย้ายหรือผู้ที่เจ้าของบ้านมอบอำนาจแจ้งย้ายออกจากบ้านเดิมภายใน15 วัน และเมื่อไปอยู่บ้านใหม่ให้แจ้งย้ายเข้าภายใน 15 วันเช่นกัน
วันที่ 17 18 หารถขนของ หากมีรถไม่เพียงพอที่จะขนของ รีบติดต่อไหว้วานเพื่อนฝูงหรือจัดหารถเพื่อใช้ขนของ หรือ ติดต่อมาที่ บิ๊ก มูฟ เพื่อจัดเตรียมรถ คนงาน วัสดุแพ็คกิ้ง เพื่อให้เรื่องขนย้ายของคุณง่าย ไม่ปวดหัวต้องมาย้ายเอง และควรจะติดต่อเสียแต่เนิ่นๆจะได้ไม่ต้องวุ่นวายเมื่อถึงเวลาจริง
วันที่ 19 20 เก็บของได้แล้ว ควรเริ่มบรรจุของลงกล่องก่อนย้ายประมาณ 10 วัน เพราะหากขาดเหลืออะไร จะได้มีเวลาเตรียมตัวจัดหาได้ทัน
วันที่ 22 23 อย่าเสียดายของในบ้านที่ไม่ได้ใช้แล้ว จะตัดใจขายต่อ บริจาคหรือบางชิ้นอาจต้องทิ้งไปเลยก็ได้ เพื่อจะได้ไม่เก็บให้รกบ้าน ไม่ต้องเสียเงินค่าขนย้ายและเสียเวลาขนย้ายเพิ่มขึ้นด้วย
วันที่ 24 25 ตรวจบ้านใหม่ ก่อนย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่ ต้องเข้าไปตรวจตราสภาพบ้านใหม่ให้เป็นที่พอใจก่อนจึงจะย้ายเข้าไปอยู่
วันที่ 26 27 28 ตรวจก่อนไป กรณีที่เป็นบ้านเช่าหรือต้องการจะขายต่อ ก่อนออกจากบ้านควรตรวจตราความเรียบร้อยของบ้านและซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพดีหรือใกล้เคียงกับสภาพเดิมมากที่สุด เพื่อป้องกันการถูกปรับค่าเสียหายและประโยชน์ในการขายทอดตลาด
วันที่ 30 ถึงเวลาย้ายบ้านแล้ว…….. ใส่แมส ล้างมือ เตรียมแอลกอฮอล์ไว้ล้างมือทีมขนย้ายทุกคนที่เข้าบ้าน
.
.
.
นำมาจากข้อมูลเดิมในเว็บเขียนไว้เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2548
ได้อนุญาติให้ Homepro และ บริษัท ซอฟท์บิส พลัส จำกัด นำบทความนี้เผยแพร่ได้